• สรุปประเด็นสำคัญ จากภาพรวมการลงทุนไทยในปี 2567

เดินทางกันมาถึงโค้งสุดท้ายของปี 2567 ถือเป็นปีมังกรทองที่ตลาดการเงินทั่วโลกเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่าง ทั้งภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น สงครามในยุโรป และนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อภาพรวมการลงทุนทั้งในและนอกประเทศ ให้ยังคงได้รับความผันผวนอย่างมาก 

วันนี้ บล. Zcom จึงจะมาสรุปภาพรวมเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบกับการลงทุนที่เกิดขึ้นภายในปีนี้ เพื่อเป็นแนวทางการเตรียมความพร้อมให้นักลงทุนสามารถก้าวต่อไปในเส้นทางการลงทุนในปีหน้าได้อย่างยั่งยืน


ประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อการเงิน การลงทุนปี 2567


  • ความผันผวนสูง: ในปีที่ผ่านมานักลงทุนหลาย ๆ ท่านคงได้เห็นผ่านตากันมาแล้วบ้างว่า สินทรัพย์หลายประเภทมีมูลค่าเพิ่มขึ้น แต่ในเวลาไม่ช้าราคาสินทรัพย์ก็ปรับลดลงอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน เมื่อการลงทุนเกิดความผันผวน ความเสี่ยงจากการลงทุนก็เพิ่มมากขึ้น โอกาสในการสร้างผลตอบแทนก็จะลดน้อยลง เมื่อเกิดความไม่แน่นอนจากปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ นักลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลประกอบการลงทุนอย่างรอบคอบ และเลือกลงทุนบนความเสี่ยงที่ยอมรับได้


  • เงินเฟ้อสูง: เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี มีแต่จะทำให้มูลค่าของเงินที่เก็บออมไว้ลดลง เช่นเดียวกันกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับการลงทุน จากการปรับตัวของเงินเฟ้อ ผลตอบแทนที่ควรได้รับจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ก็จะมีมูลค่าลดลง นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมากับความไม่แน่นอน ส่งผลให้ราคาหุ้นและมูลค่าสินทรัพย์อื่น ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น-ลงอย่างรวดเร็ว นักลงทุนจึงควรเลือกใช้เงินลงทุนเป็นเงินปลอดภาระ เลือกลงทุนในประเภทที่เหมาะกับเป้าหมาย และความสามารถในการบริหารจัดการสินทรัพย์นั้น




ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย.สรุปประมาณการเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ 

ณ 16 ตุลาคม 2567,https://bit.ly/3AQdCcN



  • อัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางปรับตัวสูง: เกิดจากการที่ธนาคารกลางต้องมีมาตรการรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่งผลต่อการชะลอตัวด้านการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่การปรับอัตราดอกเบี้ยก็เพื่อรักษาสมดุลของระบบเศรษฐกิจในระยะยาว ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจไม่เป็นใจ นักลงทุนส่วนมากก็คงเกิดความลังเลใจในการตัดสินใจซื้อ - ขาย ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ประเภทใด จนอาจทำให้เกิดความผันผวนของมูลค่าสินทรัพย์สำหรับการลงทุนได้


  • สงครามในยุโรป : สงครามที่ยืดเยื้อระหว่าง ยูเครน และรัสเซียส่งผลกระทบหลายประการต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งจากความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้น ความผันผวนของราคาพลังงาน ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และสงครามครั้งนี้ก็ยังส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เนื่องจากเป็นประเทศมหาอำนาจเกี่ยวกับอุตสาหกรรม ยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ นักลงทุนจึงควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสงครามและผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมแผนรับมือ และปรับพอร์ตการลงทุนได้ทันเวลาหากเศรษฐกิจเกิดการเปลี่ยนแปลง


  • การเมือง การเลือกตั้ง: ความไม่แน่นอนทางการเมือง และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากผลการเลือกตั้ง ส่งผลกระทบต่อการลงทุนเพราะพรรคการเมืองต่าง ๆ ล้วนแต่มีแนวคิด มาตรการที่มีผลต่อกลุ่มธุรกิจหรืออุตสาหกรรม และนโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน ดังนั้นไม่ว่าผลการเลือกตั้ง หรือการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นไปอย่างไร ล้วนส่งผลต่อความมั่นใจของนักลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศอย่างแน่นอน



ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการลงทุนสินทรัพย์ต่าง ๆ


  • ตราสารหนี้ หรือพันธบัตรรัฐบาล: ถือเป็นสินทรัพย์เพียงไม่กี่ประเภทที่ได้เปรียบจากการปรับนโยบายการเงินของธนาคารกลาง เพราะเมื่อมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ผลตอบแทนที่ควรจะได้รับจากการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลจะมีอัตราที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ผันผวนก็อาจส่งผลต่อมูลค่าของตราสารได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจลงทุนในตราสารหนี้ ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาหาข้อมูลได้จากหนังสือชี้ชวนการลงทุน และนโยบายของตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะมาจากภาครัฐ หรือภาคเอกชน


  • กองทุนรวม: ปัจจุบันกองทุนรวมมีทางเลือกอย่างเปิดกว้างมากขึ้น ผู้ลงทุนมีทางเลือกให้ลงทุนกองทุนรวมในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกองทุนทองคำ หรือกองทุนหุ้นอุตสาหกรรมในต่างประเทศ อีกทั้งยังมีตัวเลือกสำหรับกองทุนที่ปันผล หรือไม่ปันผลแบบเน้นสะสมมูลค่า ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนกองทุนรวมตามเป้าหมายทางการเงิน พร้อมความเสี่ยงที่ยอมรับได้ตามความเหมาะสม


  • ทองคำ: เป็นปีที่เรียกได้ว่าราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นจนเป็นสถิติใหม่ และเทคโนโลยีก็เป็นตัวช่วยให้การลงทุนในทองคำ หรือการออมทอง เป็นเรื่องง่ายสะดวกสบายมากขึ้นหากเปรียบเทียบกันจากในอดีต แต่ในขณะเดียวกันมูลค่าของทองคำ ก็ยังเป็นสินทรัพย์ที่เกิดความผันผวนได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นสินทรัพย์ที่จะสร้างผลตอบแทนได้ก็ต่อเมื่อต้องขายสินทรัพย์ ดังนั้นผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาปัจจัยดังกล่าว และคำนึงถึงความผันผวนของราคาที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ จากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ด้วย


  • อสังหาริมทรัพย์: เป็นสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ย เพราะส่วนใหญ่ผู้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ มักจะใช้การกู้เงินจากธนาคารมาเป็นต้นทุน ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน มีความเป็นไปได้สูงที่การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในปีที่ผ่านมา จะเกิดการชะลอตัวจากสาเหตุข้างต้น นอกจากนี้ด้วยค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงในปัจจุบัน ปัญหาหนี้สินส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้คนส่วนมาก ยังไม่ตัดสินใจที่จะลงทุนในสินทรัพย์อย่างอสังหาริมทรัพย์ และเลือกที่จะลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ต้องใช้เงินจำนวนมากแทน


  • หุ้น: เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของนักลงทุนส่วนมาก เพราะเป็นวิธีในการสะสมความมั่งคั่ง และต่อยอดเงินให้งอกเงยได้ ซึ่งด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การเริ่มต้นเปิดบัญชีลงทุนในหุ้น หรือแม้แต่การซื้อ-ขายหุ้น กลายเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ง่าย ในทุกวันทำการของตลาดหลักทรัพย์ แต่การลงทุนในหุ้นก็เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ได้รับความผันผวนจากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวไว้เช่นเดียวกัน ซึ่งภาพรวมของตลาดหุ้นในปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร บล. Zcom ได้นำมาสรุปไว้ให้แล้วในหัวข้อท้ายของบทความ



ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในปี 2567


ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับความผันผวนอย่างมากจากหลากหลายปัจจัย ทั้งมูลค่าหลักทรัพย์ ปริมาณการซื้อ-ขาย ดัชนีหุ้นไทย ล้วนแต่ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และแน่นอนว่าส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในหุ้นของนักลงทุนมากมาย เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี ตลาดมีความผันผวน ผลตอบแทนที่ควรจะได้รับก็อาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้


แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นปีที่ไม่ดีไปทั้งหมด ภายในปีนี้นักลงทุนเองก็คงจะเห็นภาพรวมของตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทยกลับมาฟื้นตัวเป็นบวกได้ในหลายจุด อีกทั้งหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ก็มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในประเทศไทย ส่วนทางด้านของหุ้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีก็ยังเป็นหุ้นกลุ่มเดียวที่มีภาพรวมการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน และปี 2567 นี้ก็ยังมีบริษัทที่เข้าจดทะเบียนเพิ่มขึ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อย่างหลากหลายกิจการ ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการเพิ่มสภาพคล่องในตลาดหุ้นไทย และดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ทั้งในและนอกประเทศ

ปี 2567 เป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีในการปรับตัว เรียนรู้จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะอย่างไรการลงทุนในตลาดหุ้นยังคงมีความเสี่ยง การลงทุนระยะยาวอย่างมีวินัย สม่ำเสมอ และลงทุนด้วยความรู้ความเข้าใจ จะมีส่วนช่วยลดความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้น และรักษาเสถียรภาพของพอร์ตให้ยังคงสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้







หมายเหตุ:

การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน



ที่มา:

รัฐบาลไทย.ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 และ 2568 , https://bit.ly/4g0BfyJ 

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย.กลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทยไตรมาส 2 ปี 2567,

https://bit.ly/3CIBwau 

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย.สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนตุลาคม 2567,https://bit.ly/416YFh5