-
บริหารการเงินให้สิ้นเดือนไม่สิ้นใจ สไตล์มนุษย์เงินเดือน
“มนุษย์เงินเดือน” หมายถึง พนักงานที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการทำงานให้กับองค์กร หรือบริษัท โดยมีค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนที่ได้รับในแต่ละเดือน ข้อดีของการเป็นมนุษย์เงินเดือนคือ ความมั่นคงในหน้าที่การงาน โอกาสเติบโตในสายอาชีพโดยได้รับสวัสดิการและผลตอบแทนอื่น ๆ
แต่ในปัจจุบันด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจ ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ทำให้เหล่ามนุษย์เงินเดือนจำนวนไม่น้อย ประสบกับปัญหา “เงิน” ที่หามาได้ไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่าย จนทำให้เกิดการกู้หนี้ยืมสินเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันผ่านไปได้ จนกว่าจะได้รับค่าตอบแทนจากเงินเดือนในเดือนถัดไป
หากเรากำลังเผชิญปัญหาดังกล่าวนี้ยิ่งปล่อยไว้นาน ๆ คงเป็นเหมือนการเข้าสู่วังวน สิ้นเดือนเงินไม่พอใช้อย่างนี้ไปซ้ำ ๆ บทความนี้จึงได้รวบรวมวิธีที่จะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงสำหรับมนุษย์เงินเดือน จะบริหารการเงินอย่างไรให้สิ้นเดือนไม่สิ้นใจ
เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับการบริหารจัดการของมนุษย์เงินเดือน
1.แบ่งสัดส่วน “เงินออม”
ถือเป็นสิ่งที่ควรทำอันดับแรกเมื่อได้รายรับเข้ามา แต่หลายคนอาจนึกไม่ออกว่าจะมีวิธีแบ่งเงินเก็บออมอย่างไรให้มีประสิทธิภาพและทำได้จริง ที่จริงแล้วก็ขึ้นอยู่กับสถานะทางการเงินในตอนนั้น ภาระค่าใช้จ่าย ช่วงวัย ซึ่งแต่ละคนก็จะมีสถานการณ์ ลักษณะการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป แต่การแบ่งเงินออมตั้งแต่เริ่มต้นก่อนใช้จ่าย ก็ยังถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและส่งผลดีมากที่สุด เพราะจะทำให้ทราบว่าในแต่ละเดือนจะมีเงินสำหรับส่วนค่าใช้จ่ายเท่าไหร่บ้าง
เงินเดือน - เงินออม = เงินค่าใช้จ่าย
โดยอาจจะเริ่มต้นจากแบ่งเงินออม 10%-20% ขึ้นไปของเงินเดือน ก่อนจะใช้จ่าย ไว้สำหรับใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน หรือแบ่งเงินออมไปลงทุน ก็จะช่วยทำให้เงินออมส่วนนั้นมีโอกาสงอกเงยตามไปด้วย
2.“เงินเดือน” ต้องวางแผน
เมื่อทราบรายรับ รายจ่าย และสัดส่วนเงินออมเรียบร้อยแล้ว อันดับถัดไปที่ควรทำคือการวางแผน “ค่าใช้จ่าย” ล่วงหน้าว่าค่าใช้จ่ายส่วนไหนจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวันบ้าง นอกจากนั้นยังสามารถเริ่มจากวิธีง่าย ๆ เขียนรายการสิ่งที่ต้องซื้อ กำหนดจำนวนเงิน เปรียบเทียบราคา เลี่ยงการใช้จ่ายที่เกินตัวและมากเกินความจำเป็น ตัดสินใจซื้อด้วยความรอบคอบ กำหนดเงินใช้ในแต่ละวัน หากวันไหนใช้เงินหมดแล้วก็ห้ามใช้จ่ายเพิ่ม ส่วนวันไหนที่ใช้ไม่ถึงยอดที่กำหนดก็สามารถเก็บเป็นสัดส่วนเงินออมที่เพิ่มมากขึ้นได้ ซึ่งนอกจากจะต้องใช้ความตั้งใจเพื่อการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายแล้ว ก็ต้องมีวินัยและความพยายามที่จะทำให้การบริหารค่าใช้จ่ายเป็นไปตามแผนที่วางไว้ให้ได้มากที่สุดอีกด้วย
3.ปรับ “ไลฟ์สไตล์” ให้อยู่ได้อย่างปลอดภัย
เงินไม่สามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าความสุขของวัยทำงานอย่างเรา เงินสามารถนำมาใช้ซื้อและอำนวยความสะดวกได้ในหลาย ๆ อย่าง อีกทั้งบางครั้งเงินยังสามารถซื้อของรางวัล และการเติมเชื้อไฟในการทำงานได้อย่างมีเป้าหมาย แต่การใช้จ่ายเกินตัวเกินความจำเป็นในบ่อยครั้ง จะนำไปสู่ปัญหาทางการเงินมากมาย ทั้งเงินไม่พอสำหรับค่าใช้จ่าย และการก่อหนี้สินเพื่อมาใช้สำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน การกินอยู่ด้วยความจำเป็น และการมีความสุขอย่างพอประมาณ จึงเป็นหนทางที่จะทำให้มนุษย์เงินเดือนอยู่รอดได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ลำบากเกินไปในภายภาคหน้า
4.เพิ่มช่องทางการหา “รายได้”
ความจริงอันโหดร้ายคือ การมีรายได้จากงานประจำอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการหลาย ๆ ในการใช้ชีวิต ซึ่งปัจจุบันมีช่องทางในการหารายได้เสริมมากมายสำหรับมนุษย์เงินเดือน เช่น งานฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ รายได้จากส่วนค่าคอมมิชชันจากธุรกิจแบบ Affiliate รวมไปถึงการทำให้งานอดิเรก ความชอบ เปลี่ยนมาเป็นสื่อเพื่อเผยแพร่ทางออนไลน์ รับรายได้จากยอดรับชม รวมไปถึงการใช้สื่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้สร้างสรรค์สื่อ หรือสินค้าสำหรับจำหน่ายช่องทางออนไลน์ หากเลือกใช้เวลาว่างหลังจากทำงานมาทำให้เกิดประโยชน์ด้วยวิธีหารายได้เสริมเหล่านี้ ก็จะช่วยทั้งในส่วนของการมีรายได้เสริม เพิ่มสัดส่วนเงินสำหรับเก็บออม แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสบการณ์ ทักษะ ในการทำงานรูปแบบอื่น ๆ ได้อีกด้วย
5.ศึกษา “สวัสดิการ” โบนัส กองทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท
สิทธิประโยชน์ที่มนุษย์เงินเดือนได้รับนอกจากเงินเดือนก็คือสิ่งเหล่านี้ บริษัทหลายที่มีประกันสุขภาพสำหรับพนักงานเพื่อดูแล รักษาสุขภาพของพนักงานในยามเจ็บป่วย บางบริษัทก็มีสวัสดิการเป็นเงินพิเศษสำหรับเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับพนักงาน เช่น เงินสนับสนุนเมื่อสมรส คลอดบุตร รวมไปถึงสนับสนุนด้านการศึกษา ฝึกอบรม ทักษะที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน และสิ่งที่พลาดไม่ได้คือการศึกษากองทุน บริษัทหลายแห่งมีเงินช่วยสมทบทุนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ SSF/RMF ให้กับพนักงานตามเงื่อนไขและข้อกำหนด นอกจากนี้เงินโบนัสที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราได้รับประจำปีก็เป็นเงินก้อนหนึ่งที่หากบริหารจัดการได้ดี เลือกนำเงินบางส่วนไปลงทุน ก็จะสามารถต่อยอดให้เงินจำนวนนั้นงอกเงยยิ่งขึ้นไปได้อีกด้วย
6.วางแผน “ภาษี”
เป็นสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนมองข้ามไป จนในที่สุดอาจต้องเสียภาษีในจำนวนมากโดยไม่ได้รับการบริหารจัดการที่ดี วิธีการวางแผนจัดการภาษีแบบง่าย ๆ เริ่มต้นได้จากศึกษาหาข้อมูลทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเสียภาษี ทั้งส่วนประเภทของรายได้ ค่าลดหย่อน รวมไปถึงอัตราภาษีที่ต้องจ่าย รวมไปถึงการวางแผนรายรับทั้งหมดที่หามาได้ ประเมินว่าต้องเสียภาษีจำนวนเท่าไหร่ สามารถวางแผนจัดการค่าลดหย่อนทางภาษีได้อย่างไร โดยในปัจจุบันมีการวางแผนจัดการภาษีหลากหลายรูปแบบที่สามารถสร้างประโยชน์จากการใช้เงินส่วนนั้นได้ ทั้งการนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวม SSF/RMF การทำประกันชีวิตที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ การใช้เงินไปกับซื้อของที่จำเป็นต้องใช้ ในระยะเวลาของโครงการที่รัฐฯ กำหนด
ตลอดจนถึงเรียนรู้ในสิทธิประโยชน์ทางภาษี ก็จะสามารถทำให้เราประหยัดค่าภาษีได้อย่างถูกกฎหมาย และช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังมีค่าลดหย่อนอีกมากมายที่น่าสนใจและไม่ควรมองข้าม แถมค่าลดหย่อนบางอย่างยังเป็นการส่งเสริมเพื่อให้เกิดการออม และการลงทุนระยะยาวด้วย โดยเราสามารถศึกษาค่าลดหย่อนทางภาษีเพิ่มเติมได้ที่บทความต่อไปนี้
>> SET Investnow.วันนี้คุณใช้สิทธิของมนุษย์เงินเดือนได้คุ้มแล้วหรือยัง,https://bit.ly/3XYhHES
7.พัฒนา “ทักษะการเงิน”
เป็นอีกทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งกับมนุษย์ทำงาน เพราะนอกจากมีความสามารถในการหารายได้ การมีทักษะในการบริหารการเงินให้ดีก็เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างราบรื่นสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงิน ไปจนถึงมีความมั่งคั่งทางการเงินได้อย่างยั่งยืน ซึ่งทักษะทางการเงินเป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ จากหลากหลายแหล่งที่มาทั้งการเรียนรู้การบริหารการเงินจากช่องทางออนไลน์ที่เรียนรู้ได้อย่างไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นสื่อ Video Podcast หรือบทความ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเงิน และการลงทุน ล้วนแต่เป็นตัวช่วยที่สามารถพัฒนาทักษะการเงินของเราได้ทั้งสิ้น
นอกจากนั้นการเพิ่มทักษะด้วยการอ่านหนังสือก็ยังถือเป็นตัวเลือกที่ดี ซึ่งหนังสือเกี่ยวกับการเงินก็มีมากมาย แต่ละเล่มก็ให้ความรู้ มุมมอง วิธีคิด คำแนะนำที่แตกต่างกันไป มนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็สามารถเลือกเรียนรู้วิธีเพิ่มทักษะทางการเงินให้เหมาะกับความชอบและไลฟ์สไตล์ในชีวิต ก็จะช่วยให้เรามีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถเลือกเทคนิคบริหารการเงิน การลงทุน เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
8. “ลงทุน” สร้างผลตอบแทน
เป็นสิ่งที่สามารถทำไปพร้อม ๆ กับการเก็บออม เพราะการลงทุนถือเป็นสิ่งที่สามารถทำให้เงินงอกเงยและสร้างผลตอบแทนได้ ทั้งจากการลงทุนระยะสั้น และการลงทุนระยะยาว ซึ่งในปัจจุบันก็มีการลงทุนหลากหลายรูปแบบให้เราเลือกลงทุนได้ตามเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการ มาดูตัวอย่างการลงทุนที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็สามารถเลือกลงทุนเพื่อช่วยเก็บออม และเพิ่มพูนมูลค่าเงินของเราได้ ดังต่อไปนี้
- ฝากประจำ: เป็นการลงทุนที่มีโอกาสสูญเสียเงินต้นน้อย มีความปลอดภัยสูง โดยสามารถเริ่มต้นด้วยตัวเองได้และทำได้ง่าย แต่ดอกเบี้ยที่ได้จากการฝากธนาคารนั้นมักต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งหมายความว่ามูลค่าเงินที่ฝากไว้มีโอกาสจะลงได้เมื่อเวลาผ่านไป
- กองทุนรวม: เป็นการลงทุนที่หากมีต้นทุนน้อย ก็สามารถเริ่มต้นได้ เพราะเป็นการรวมเงินจากเหล่านักลงทุนหลายรายให้กลายเป็นเงินก้อนใหญ่ โดยมีผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดการกองทุนรวม เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามความเหมาะสม อีกทั้งกองทุนบางประเภทยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่ได้กำหนดไว้ ในอัตราการลดหย่อนภาษี ซึ่งนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมในรูปแบบของเงินปันผล หรือมูลค่าหน่วยลงทุนที่เพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนสามารถพิจารณาความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของกองทุนแต่ละประเภทได้จากหนังสือชี้ชวนการลงทุน และเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้
- หุ้นกู้: ผู้ลงทุนในหุ้นกู้จะมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ของบริษัท เพื่อนำเงินส่วนนั้นไปใช้พัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์ต่อกิจการด้านต่าง ๆ โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย โดยแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ ตลอดอายุสัญญา หรือตามที่อายุสัญญากำหนด เมื่อครบกำหนดอายุหุ้นกู้บริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะต้องชำระเงินต้นคืนให้กับนักลงทุน แต่การลงทุนในหุ้นกู้ก็มีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ หรือไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่กำหนดไว้ได้ หรือร้ายแรงที่สุดคือไม่ได้รับเงินต้นจากการลงทุนคืนเนื่องจากบริษัทประกาศล้มละลาย ดังนั้นการตัดสินใจลงทุนในหุ้นกู้ เราควรศึกษาข้อมูลความเป็นมาของบริษัท พิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และเลือกลงทุนในหุ้นกู้ที่เหมาะสมกับสภาวะทางการเงิน และอยู่ในความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- หุ้น: นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นเป็น ส่วนต่างราคา หรือเงินปันผลจากการเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าของกิจการ โดยไม่ต้องบริหารหรือจัดการกิจการเอง ทั้งยังมีสิทธิ์ในการได้รับอำนาจตัดสินใจในการประชุมผู้ถือหุ้นของกิจการตามสัดส่วนที่ลงทุน ซึ่งการลงทุนในหุ้นสามารถเริ่มต้นได้ไม่ยากสำหรับมนุษย์ทำงานมือใหม่ก็สามารถเลือกเปิดบัญชีออนไลน์ เพื่อทำการซื้อ-ขายได้ผ่านเครื่องมือ แอปพลิเคชันเทรดหุ้นที่โบรกเกอร์ให้บริการได้ในทุกวัน เวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์ ทำให้การลงทุนในหุ้นถือว่ามีสภาพคล่องสูงกว่าการลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ อีกทั้งการลงทุนในหุ้นยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่อยากเริ่มต้นลงทุน เพื่อสร้างเสริมรายได้ ต่อยอดเงินออม และการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตวัยเกษียณภายภาคหน้า แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง มักจะมาคู่กับความเสี่ยงสูงที่อยู่ในระดับเดียวกัน สิ่งสำคัญคือต้องทำการศึกษา เรียนรู้ทำความเข้าใจในหุ้นที่ต้องการลงทุน กระจายความเสี่ยง และมีวินัยลงทุนด้วยความสม่ำเสมอด้วยการวางแผนและลงทุนอย่างชาญฉลาด
เพราะไม่ว่าจะอย่างไรการลงทุนที่ดีและคุ้มค่าที่สุด คือ “การลงทุนในความรู้” การมีความรู้และเข้าใจพื้นฐานการลงทุนในหุ้น จะทำให้การเริ่มต้นเส้นทางนักลงทุนไม่ยากลำบากอีกต่อไป ถึงจะเกิดความผิดพลาดบ้างในบางครั้งแต่ความรู้จะป้องกันให้ การก้าวต่อไปบนเส้นทางการลงทุนในหุ้นของนักลงทุนไม่บาดเจ็บจนเกินไป
ส่วนจะมีวิธีการอย่างไรให้การลงทุนในหุ้นของมนุษย์เงินเดือนเป็นเรื่องง่าย บล. Zcom ได้สรุปมาให้ในบทความ
“ลงทุนในหุ้นฉบับมนุษย์เงินเดือน” ซึ่งสามารถติดตามอ่านเพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะการลงทุนในหุ้นได้ในบทความถัดไป
หมายเหตุ:
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
ที่มา:
Mahidol Channel มหิดล แชนแนล.มนุษย์เงินเดือน ลงทุนอย่างไรให้ปลอดภัย | EP.14 | เงินทองต้องจัดการ,https://bit.ly/464Jky6
SET Investnow.วันนี้คุณใช้สิทธิของมนุษย์เงินเดือนได้คุ้มแล้วหรือยัง,https://bit.ly/3LrUhQA
Paul Pattarapon พอล ภัทรพล. แผนการรวย !! ...ฉบับมนุษย์เงินเดือน | Money Matters EP.22,https://bit.ly/3W3UgHI
Jobsdb. อย่าเพิ่งท้อ! เปิดโอกาส การลงทุน ฉบับมนุษย์เงินเดือนในยุคโควิด,
