-
เป้าหมายการลงทุนไม่พลาด แค่ SMART(ER) ในการตั้ง
ทำไมเราถึงควรเริ่มต้นลงทุนอย่างมีเป้าหมาย ??
เป้าหมายที่ดีจะทำให้สิ่งที่นักลงทุนต้องการมีความชัดเจนยิ่งขึ้น และสามารถจัดทำแผนสำหรับกลยุทธ์ในลงทุนได้ง่ายขึ้น รวมถึงการมีเป้าหมายจะช่วยให้คุณ
มีแรงบันดาลใจในการลงทุนมากขึ้นอีกด้วย บทความนี้จะแนะนำวิธีการตั้งเป้าหมายทางการลงทุน ด้วยหลักการ SMARTER ซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้
S : Specific เป้าหมายต้องมีความชัดเจน เฉพาะเจาะจง ไม่กว้างจนเกินไป ในการระบุรายละเอียด ควรระบุถึงสาเหตุและวิธีการของเป้าหมายที่จะทำด้วย
M : Measurable เป้าหมายจะต้องมีการระบุตัวเลขเพื่อให้สามารถวัดผลได้ ซึ่งจะต้องเป็นตัวเลขที่มีที่มาที่ไป ส่วนมากเป้าหมายการลงทุนมักระบุเป็นตัวเลขเงินออม เงินปันผล เป็นต้น
A : Achievable เป้าหมายควรมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณทำอยู่และสามารถทำให้บรรลุผลได้จริง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความท้าทายเพื่อให้คุณรู้สึกมีแรงผลักดันในการทำเป้าหมายให้สำเร็จ
R : Realistic เป้าหมายต้องมีความเป็นไปได้ สอดคล้องกับความเป็นจริงและดูสมเหตุสมผล
T : Timely กำหนดระยะเวลาที่แน่นอน เพื่อให้นักลงทุนสามารถจัดลำดับความสำคัญของแต่ละเป้าหมายได้ ซึ่งมีการแบ่งระยะของเป้าหมายทางการลงทุนออกเป็น 3 ระยะด้วยกัน ได้แก่
- เป้าหมายระยะสั้น (Short - term goal) คือเป้าหมายในการลงทุนที่คุณต้องการทำให้สำเร็จภายในไม่เกิน 1 ปี เช่น ต้องการลงทุนให้เกิดรายได้ 30,000 บาท เพื่อซื้อกล้องในอีก 5 เดือนข้างหน้า
- เป้าหมายระยะกลาง (Intermediate - term goal) คือเป้าหมายในการลงทุนที่คุณต้องการทำให้สำเร็จภายใน 1 - 5 ปี เช่น ต้องการลงทุนในหุ้นให้มีเงินออมสะสม 2 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 4 ปี เพื่อเอาไปเป็นทุนในการเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ
- เป้าหมายระยะยาว (Long - term goal) คือเป้าหมายในการลงทุนที่คุณต้องการทำให้สำเร็จภายในระยะเวลามากกว่า 5 ปีขึ้นไป เช่น ต้องการลงทุนในหุ้นเพื่อให้มีเงินเก็บ 10 ล้านบาทไว้ใช้ในวัยเกษียณในอีก 10 ปีข้างหน้า
ตัวอย่างการตั้งเป้าหมาย
“ในอีก 4 ปีข้างหน้า นายโมโตะซังต้องการมีเงินปันผลจากการลงทุนในหุ้น 20,000 บาท ต่อเดือน หรือได้ปันผล 5% ต่อปี เพื่อจะหันมาเป็น Full time trader ดังนั้นนายโมโตะซังจึงต้องออมเงินมาเป็นเงินต้นเพื่อลงทุนอย่างน้อย 4,800,000 บาท ภายในระยะเวลา 4 ปี ”
*สามารถอ่านสูตรการหาเงินต้นในการสร้าง Passive Income จาก บทความ : สร้าง Passive Income ได้ด้วยหุ้นมั่นคง
หลังจากที่เรามีเป้าหมายตามหลัก SMART แล้วสิ่งที่จะต้องทำสิ่งถัดมาคือ
E : Evaluate ประเมินเป้าหมายของคุณทุกวัน การประเมินคือการทบทวนและไตร่ตรองว่าอะไรใช้ได้ผล อะไรไม่ได้ผล หรือสิ่งที่ขัดขวางเป้าหมายของคุณอยู่คืออะไร หากนักลงทุนมีการประเมินเป้าหมายอยู่เป็นประจำก็จะมีโอกาสบรรลุเป้าหมายมากขึ้น
R : Readjust หากทำตามวิธีการเดิมแล้วเป้าหมายของคุณยิ่งเป็นไปได้ยาก ให้ลองปรับวิธีการและเทคนิคใหม่ เช่น คุณอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงการจัดสรรพอร์ตการลงทุนของคุณใหม่ เมื่อพอร์ตเดิมรับความเสี่ยงมากเกินไป เป็นต้น
จากการกำหนดเป้าหมายด้วยหลัก SMARTER ทำให้เป้าหมายทางการลงทุนนั้นชัดเจน มีการประเมินและปรับแผนอยู่เป็นประจำ แต่ถ้าไม่มีกลยุทธ์และการวางแผนที่ดีก็อาจทำให้คุณไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ดังนั้นการเลือกกลยุทธ์ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ นักลงทุนสามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านการลงทุน ได้ที่ บทความ : ลงทุนแบบไหน ให้เข้ากับ Life Style สุดท้ายนี้การตั้งเป้าหมายเป็นเหมือนกระดุมเม็ดแรกที่เราจะติด หากเริ่มต้นด้วยการติดผิด เม็ดต่อไปก็จะผิดตาม การตั้งเป้าหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเริ่มต้นทุกๆสิ่ง
*การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดก่อนการลงทุน
ที่มา
How To Set Investing Goals , จาก https://bit.ly/3HWjzCz
Setting S.M.A.R.T.E.R. Goals: 7 Steps to Achieving Any Goal , จาก https://bit.ly/3zNU5V7
เป้าหมายชีวิตไม่ไกลเกินเอื้อม ด้วยแผนการลงทุน 7 ขั้นตอนนี้ , จาก https://bit.ly/31Kgx54
ตั้งเป้าแบบ “SMARTER Goal” แล้วไปให้ถึง , จาก https://bit.ly/3fdFokN