• ลงทุนแบบไหน ให้เข้ากับ Life Style

ในปัจจุบันการลงทุนในหุ้นเรียกได้ว่าเป็นที่นิยม และเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าผลตอบแทนที่เกิดจากสินทรัพย์อื่นๆ เช่น เงินฝาก สลากออมสิน หรือพันธบัตรรัฐบาล อยู่ในระดับที่ไม่สูงนัก หรืออยู่ในระดับที่ต่ำกว่าการคาดหวัง แม้ว่าตลาดหุ้นจะเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ แต่ว่าเราจะเลือกลงทุนแบบไหนที่เหมาะกับตนเอง และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

เมื่อลงทุนในตลาดหุ้น จะมองแค่ด้านผลตอบแทนด้านเดียวไม่ได้ ต้องมองความเสี่ยงด้วย โดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ควรรู้จักตนเอง Life Style เราเป็นแบบไหน รับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน


เมื่อ Life Style แตกต่าง การลงทุนที่เหมาะสมกับแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกันไป หากอยากเริ่มต้น และประสบความสำเร็จในการลงทุน ก็ควรมีแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเรา และสอดคล้องกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สำหรับมือใหม่ที่อยากลงทุนในหุ้น อาจลองเริ่มต้นศึกษา 2 รูปแบบการลงทุน ดังนี้



1. แผนการลงทุนระยะยาว (Long Term Investment) 5 ปีขึ้นไป

การลงทุนระยะยาวก็เหมือนกันการวิ่งมาราธอน เป็นการค่อยๆ สร้างความมั่งคั่งอย่างมั่นคง การลงทุนแบบนี้มีความผันผวนของตลาดที่ต่ำ โดยลักษณะการลงทุนระยะยาวนั้น นักลงทุนมักกำหนดวัตถุประสงค์ไว้ว่าเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่ง จะต้องการมีเงินจำนวนเท่าใด เช่น ลงทุนเพื่อเกษียณในอีก 20 ปีข้างหน้า และต้องการมีเงินจำนวน XXX บาท หรือ อีก 10 ปีข้างหน้าต้องการมีเงินเก็บจำนวน YYY บาท เป็นต้น กล่าวคือเป็นการปล่อยให้เงินทำงาน เพื่อสร้าง Passive Income

การลงทุนระยะยาวควรเลือกลงทุนใน

  • หุ้นที่เป็นกิจการขนาดใหญ่ ผลการดำเนินงานที่ดี และฐานะทางการเงินที่มั่นคง โดยเฉพาะเมื่อพ้นวิกฤตต่างๆ แล้ว เม็ดเงินลงทุนมักจะกลับมาในหุ้นใหญ่ๆ เหล่านี้ เช่น หุ้นกลุ่ม SET50 ในกลุ่มอุตสาหกรรม (Sector) ใหญ่ๆ เช่น กลุ่มพลังงาน ธนาคาร สื่อสาร ค้าปลีก ขนส่ง เป็นต้น 
  • หุ้นเติบโต โดยต้องมีผลการดำเนินงานโดดเด่น มีแนวโน้มเติบโตที่ดี 
  • หุ้นปันผล ก็เป็นกลยุทธ์ชั้นดีในการลงทุนเช่นกัน ควรเป็นบริษัทที่มีนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 30-50% มีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) มากกว่า 5% ต่อปี

หุ้นทั้งสามกลุ่มนี้เหมาะที่จะลงทุนแบบระยะยาว หากคาดการณ์ว่า สภาวะการลงทุนยังไม่แน่นอน ก็ควรทยอยลงทุนแบบทยอยซื้อเพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง

ดังนั้น การลงทุนระยะยาว ยิ่งลงทุนได้นานมากเท่าไหร่โอกาสขาดทุนจะยิ่งน้อยลง และเพิ่มโอกาสทำให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงขึ้น [อ่านบทความ : สร้าง Passive Inocome ได้ด้วยหุ้นมั่นคง โคย บล. Zcom คลิก]


2. แผนการลงทุนระยะสั้น ไม่เกิน 3 ปี

การลงทุนระยะสั้น ถือเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนมากพอสมควร โดยมีการซื้อ - ขายบ่อย ทำกำไรระยะสั้น และต้องเป็นนักลงทุนที่ตัดสินใจเด็ดขาด สามารถยอมรับความเสี่ยงได้สูง มีจุด Stop loss ที่แน่นอนหากราคาไม่เป็นตามคาด สำหรับการลงทุนระยะสั้นนั้นอาจเน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็ก เพราะมีโอกาสเติบโตสูง สามารถปรับตัวในวิกฤตต่างๆ ได้เร็ว และง่าย แต่อาจจะจำเป็นต้องใช้ Market Timing (กลยุทธ์การจับจังหวะ) ร่วมด้วยเพื่อดูปัจจัยระยะสั้น และหาจังหวะขายเพื่อทำกำไรเป็นระยะ

ทั้งนี้ การลงทุนในระยะสั้นนั้นเงินที่ลงทุนไม่ควรกระทบกับสถานะทางการเงิน และการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 


กลยุทธ์การลงทุนในหุ้น

กลยุทธ์การลงทุนในหุ้น จะมีอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ Market Timing และ DCA ส่วนเรื่องที่ว่าแบบไหนจะเหมาะกับเรา ลองศึกษาจากบทความนี้ 

Market Timing หรือบางครั้งอาจเรียกว่า Lump sum คือเป็นการลงทุนแบบเงินก้อน โดยประเมิน และคาดการณ์ทิศทางตลาด ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และปัจจัยทางเทคนิค รวมถึงวิเคราะห์เศรษฐกิจประกอบกัน เพื่อหาจังหวะซื้อ-ขาย แล้วตัดสินใจลงทุน เพื่อให้สามารถเข้าซื้อหุ้น ณ ราคาที่เหมาะสมได้ 

Market Timimg เหมาะกับใคร ?

  • นักลงทุนที่วิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจได้แม่นยำ
  • นักลงทุนที่มีความรู้ด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค
  • นักลงทุนที่มีเงินก้อน และกำลังรอจังหวะเวลาการลงทุนที่เหมาะสม

DCA (Dollar Cost Averaging) คือการทยอยลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน ด้วยเงินเท่าๆ กันทุกงวด โดยไม่สนใจราคาหุ้น ณ ตอนนั้นว่าสูงหรือต่ำ จึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้กำไรสูงสุด แต่ก็ไม่มีทางขาดทุนแบบกู่ไม่กลับ [อ่านบทความ : เริ่มลงทุนในหุ้นด้วยการลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Averaging) กับ บล. Zcom คลิก]

DCA เหมาะกับใคร?

  • นักลงทุนที่ไม่มีเวลาในการเฝ้าจอ หรือติดตามข้อมูล
  • นักลงทุนที่มีเงินเริ่มต้นลงทุนไม่มาก
  • นักลงทุนที่ต้องการสร้างวินัยการลงทุน 


ทั้งนี้ ไม่ได้มีวิธีไหนเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่นักลงทุนต้องเลือกกลยุทธ์ให้เหมาะกับตัวเรา เพราะแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อจำกัด และข้อควรระวังในการลงทุนต่างกันไป

เมื่อเจอการลงทุนที่เหมาะกับตนเองแล้ว แต่เราจะเลือกหุ้นให้ถูกใจ และยังเป็นหุ้นที่ดีด้วย ได้อย่างไร? สามารถศึกษาต่อได้ที่บทความ : How to คัดหุ้นเด่น เลือกหุ้นดีเข้าพอร์ต คลิก

 

*การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดก่อนการลงทุน

 

ที่มา

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย.ลงทุนหุ้น หนทางสู่ความมั่งคั่งอย่างมั่นคง, จาก https://bit.ly/3yZ3Xd8

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย.ซื้อหุ้นแล้วรอรับปันผล แบบไม่ต้องลุ้น, จาก https://bit.ly/3rcsMQa

ธนาคารไทยพาณิชย์.หุ้นปันผลให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด, จาก https://bit.ly/3zcg8DI

ธนาคารไทยพาณิชย์.จัดพอร์ตลงทุนระยะสั้น ยาว กลาง อย่างไรให้สำเร็จ, จาก https://bit.ly/3kxpeXt

Plearnเพลิน by krungsri GURU.เลือกซื้อหุ้นในเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ, จาก https://bit.ly/3kvJhp4

FINNOMENA.เลือกจับจังหวะซื้อแบบ Market Timimg หรือ ทยอยลงทุนแบบ DCA ดี?, จาก https://bit.ly/3rhSkeG

Moneywecan.การลงทุนระยะยาว คืออะไร เลือกลงทุนอะไรดีให้ได้ผลตอบแทนสูง ปี 2021, จาก https://bit.ly/3eyVIwz

 

เริ่มต้นลงทุนง่ายๆ ตรงกับ Life Style กับบล. Zcom

ค่าคอมฯ เพียง 0.065%* ไม่มีขั้นต่ำต่อวัน

เปิดพอร์ตออนไลน์พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย คลิก